โรคเบล้าท์ (Blount Disease) |
|
เคยไหมบ้างไหมว่า เด็กที่อ้วนมากๆ เวลาเดินจะคล้ายๆ กับคิงคอง คือ เดินโยกซ้าย โยกขวา มองลงไปที่ขาจะเห็นขาโก่ง ปลายเท้าชิดกัน แต่ช่องระหว่างเขากว้างออก ลักษณะอย่างนี้เป็นเพราะเด็กอ้วนต้นขาใหญ่จนยืนขาชิดกันไม่ได้ หรือว่าขาโก่งจริงๆ วันนี้มีสาระความรู้ดีๆ ที่จะพาทุกคนมาทำความรู้จักกับโรคที่เกิดขึ้นกับเด็กๆ ที่มีน้ำหนักมากๆ หรือที่เรียกว่า โรคเบล้าท์ (Blount Disease) กัน |
|
เพราะอะไร? ทำไมขาโก่ง |
|
"โรคเบล้าท์" เป็นโรคหนึ่งที่ทำให้ขาโก่งได้ ส่วนใหญ่ขาจะโก่งขาเดียว ซึ่งการโก่งมักเห็นชัดและสามารถวินิจฉัยได้แน่นอน เพราะโรคนี้พบมากในเด้กช่วงอายุ 3-5 ปี ในเด็กที่อายุน้อยกว่านี้ หากสงสัยว่าจะเป็นโรคนี้ อาจตรวจเช็คได้โดยการเอกซเรย์วัดมุมของกระดูกหน้าแข้งว่า มีความเสี่ยงต่อโรคนี้หรือไม่ หากมีความเสี่ยงอาจจับตามองเป็นพิเศษ และอาจจะต้องได้รับการเอกซเรย์เป็นระยะ เพื่อหาทางรักษาอย่างถูกวิธีและให้ทันถ่วงที หากพบว่า เป็นโรคเบล้าท์จริงๆ จะเห็นได้จากภาพเอกซเรย์ว่าเกิดความผิดปกติของกระดูกหน้าแข้ง ซึ่งความผิดปกตินี้เป็นผลมาจากการที่กระดูกอ่อนส่วนนี้เจริญเติบโตผิดปกติ |
|
น้ำหนักสัมพันธ์กับขาโก่ง |
|
เมื่อเป็นโรคนี้ การโก่งของขาข้างที่เป็นจะมีการหักมุมอย่างชัดเจนในส่วนต้นของกระดูกหน้าแข้ง ต่างจากการโก่งของขาตามพัฒนาการ ซึ่งจะโก่งเป็นแนวโค้งเรียบกันไป ทั้งกระดูกส่วนต้นและกระดูกหน้าแข้ง ที่เป็นเช่นนี้เพราะความผิดปกติของโรคเบล้าท์เกิดขึ้นที่กระดูกหน้าแข้งเพียงจุดเดียวนั่นเอง การโก่งนี้จะค่อยเป็นค่อยไป หากไม่ได้รับการรักษาจะโก่งขึ้นเรื่อยๆ |
|
รักษาด้วยการผ่า โรคนี้รักษาโดยการผ่าตัด แต่การผ่าตัดมีหลายวิธีขึ้นอยู่กับระยะของโรค และลักษณะความผิดปกติที่เกิดขึ้น การผ่าตัดระยะแรกในช่วงที่อาการยังไม่รุนแรงจะได้ผลดี หากผ่าตัดก่อนอายุ 5 ปี ในช่วงอายุนี้ เมื่อเข่าได้รับการแก้ไขให้ตรงแล้ว จะลดแรงกดทางด้านใกล้แกนกลางของกระดูก อาจทำให้กระดูกอ่อนกลับมาเจริญเป็นปกติได้อีก หากผ่าตัดเมื่ออายุมากกว่านี้ มีโอกาสจะเกิดขาโก่งซ้ำหลังการรักษา เนื่องจากกระดูกอ่อนหยุดการเจริญเติบโตอย่างถาวร เหมือนกับการรักษาโรคในเด็กทั่วไป การรักษาในอายุที่มากขึ้นทำได้ยาก นอกจากต้องผ่าแก้ความผิดรูปของข้อแล้ว ยังเป็นการยากที่จะทำให้เอ็นซึ่งยืดออกไปแล้วกลับมากระชับอีก |
|
อย่างไรนั้น เมื่อคุณพ่อคุณแม่อ่านถึงตรงนี้จะเห็นได้ว่า ความอ้วนเป็นความเสี่ยงที่ส่งผลให้เกิดโรคนี้ และความอ้วนก็เป็นสาเหตุให้เกิดโรคอื่นๆ อีกหลายโรค การป้องกันไม่ให้เด็กอ้วนเกินไป จะเป็นส่วนหนึ่งในการป้องกันโรคนี้ได้ หากเห็นเด็กอ้วนมีขาโก่งเพียงข้างเดียว และโก่งมากขึ้นเรื่อยๆ ควรรีบพาไปพบคุณหมอ เพื่อตรวจดูอาการ หากเป็นโรคนี้จริงจะได้เตรียมการรักษาไว้แต่เนิ่นๆ อีกทั้งการใส่รองเท้าดัดขาต่างๆ ได้ผลไม่แน่นอนและเป็นวิธีที่ไม่แนะนำ |
|
Produce by Medical Service Department
สำนักการแพทย์ กรุงเทพมหานคร เลขที่ 514 ถนนหลวง เขตป้อมปราบศัตรูพ่าย กรุงเทพฯ 10100 โทร. 0-2224-2954 , 0-2224-9711 , 0-2221-6020 , 0-2225-4966 โทรสาร 0-2226-1931 , 0-2221-6029
ติดต่อ Webmaster : webmaster@msdbangkok.go.th